วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

โทษประหารน่ะมีแน่ แต่จะใช้หรือเปล่าเท่านั้นเอง




     ได้ยินคนประท้วงให้แก้กฎหมายเพื่อเพิ่มโทษประหารในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  นักกฎหมายคงได้แค่ถอนใจ...

     ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยหรอกนะ  คนบางคนก็เลวเกินจะได้รับการอภัย

     แต่ที่ว่าถอนใจน่ะ  เพราะรู้ว่า


     โทษประหารน่ะ  มันมีอยู่แล้ว



     สิ่งที่เกิดขึ้น  ในมุมมองของคนทั่วไปคงจะเรียกกันว่า  "จี้ชิงทรัพย์  และฆ่าเจ้าทรัพย์"

     แต่ศัพท์กฎหมายนั้นจะเรียกต่างออกไป..  โดยเรียกว่า  


     "..ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ.....ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์"  รายละเอียดเต็มกรุณาอ่านประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 นะ

     และเมื่อมีการตายเกิดขึ้นของผู้เสียหาย  มันจะเข้าวรรคท้าย(หรือย่อหน้าสุดท้าย)  ที่ว่า  "ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย.."

     ซึ่งอัตราโทษคือ  "..ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต"

     เห็นมั้ย  โทษน่ะมี  ไม่ตายก็ติดคุกคางเหลือง


     และต่อให้หลุดจากมาตรานี้ไปได้  (ยังนึกไม่ออกว่าจะหลุดได้ยังไง)  มันก็ไปเข้าอีกมาตราหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับการฆ่าโดยเหตุรุนแรง  หรือภาษากฎหมายเรียกว่า  "เหตุฉกรรจ์"  นั่นคือ

     ถ้าไม่ใช่  "(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ  หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่าอื่น.."  มันก็คงเป็น

     "(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น..."

    อยู่ดี  ส่วนโทษน่ะหรือ...

     "...ต้องระวางโทษประหารชีวิต"  ตามมาตรา 289

     เข้าบทนี้ตายสถานเดียว...



     ดังนี้จึงเห็นได้ว่า  โทษสำหรับการกระทำความผิดให้ผู้เสียหายถึงตายน่ะ  มันมีอยู่แล้ว  จึงไม่จำเป็นจะต้องร้องขออะไรอีกเกี่ยวกับตัวบทกฎหมาย

     หากจะขอ  สิ่งที่ควรจะขอ  เพื่อความสงบสุขของคนดี  น่าจะเป็น

     -  ขอให้การสอบสวนเป็นไปโดยถูกต้อง  เพื่อให้อัยการสามารถฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

     -  ขอให้  หาเหตุที่จะลดโทษให้ผู้กระทำผิดไม่ได้     และเพื่อความต่อเนื่อง  สิ่งที่ควรขอต่อไปคือ

     -  ขอให้  ผู้กระทำความผิด ไม่ได้รับการอภัยโทษออกมา  ตราบใดที่ยังสำนึกตัวไม่ได้

      (สองข้อนี้แหละสำคัญ  ไอ้ที่ออกมาเดินเพ่นพ่านกันเยอะส่วนหนึ่งคือได้รับการลดโทษลงมา แล้วได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวออกมา)


     ตามความเห็นเรา  บางทีตัวบทไม่ได้ขาดแคลนโทษที่เหมาะสมกับความผิดหรอกนะ  แต่ในทางปฏิบัติต่างหากที่ทำให้มันไม่สัมฤทธิ์ผลเต็มที่  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่



     เราเห็นด้วยว่าการให้อภัยและให้โอกาสเป็นสิ่งที่ดี

     แต่ "โอกาส" ควรสงวนไว้ให้แก่คนที่คู่ควรจะได้จริงๆ


     เพราะการให้ "โอกาส" แก่คนไม่ดี

     สุดท้าย  คงไม่ต่างอะไรกับการเป็น  "ผู้สนับสนุน"  ที่หยิบยื่น "อาวุธ"  ให้คนเลว  มาประหัดประหาร "คนดี"  ในสังคม


     ...อยู่ร่ำไป...




     ปล  กรุณาอย่าให้แก้กฎหมายนักเลย  เห็นใจคนสอบเถอะ  ทุกวันนี้วิ่งตามตัวบทแก้ใหม่จนปวดหัวไปหมดแล้วววว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น